เที่ยวต้นน้ำเพชรบุรี

Back to Blog

เที่ยวต้นน้ำเพชรบุรี

ผมไปเพชรบุรีหลายครั้ง หัวหิน หาดสำราญ ทะลุชะอำ ป่าละอู ประจวบ  โดยเฉพาะป่าละอูข้างทางจะเจอช้างป่าข้างทางบ่อยๆ ทำให้หวนคิดถึงเขาใหญ่เสมอๆ แต่ที่ไปบ่อยที่สุดคือ แก่งกระจาน บางครั้งน้ำมากต้องกางเต้นท์ข้างบน บางครั้งน้ำน้อยสุดๆ เราสามารถไปกางเต้นท์ได้ถึงกลางน้ำหรือริมน้ำได้เลย และก๊ไม่ลืมถ่ายรูปสะพานราวเหล็กในความทรงจำของหลายๆคน หรือในหนังหลายๆเรื่อง ผมไม่เคยเลยเข้าไปถึงเขาพะเนินทุ่ง ทั้งๆที่อยากไปใจจะขาด

สาเหตุเพราะเวลาไม่พอบ้าง มีสาวๆอายุไม่น้อย ติดสอยห้อยตามไปบ้าง กิตติศัพท์ที่นั้นจะดิบมากอีกแห่งหนึ่ง น่าจะดิบกว่าเขาใหญ่เสียอีก ผมจะชอบแนวๆนี้ แนวที่คนเขาไม่ค่อยไปกันหรือสนใจกันเท่าใหร่ หลังจากได้เปรยๆกันพี่คนหนึ่ง เขาแนะนำว่าคุณไม่ต้องไปเขาพะเนินทุ่งหรอกเข้าโป่งลึกไปเลย ดิบกว่ามากมาย มีชาวเขาชาวเผ่า บริสุทธ์ อยู่มากๆ ผมฟังแล้วหูผึ่ง ผึ่งเพราะคำว่าบริสุทธ์นี้แหละ (คน…หรือบรรยากาศว๊ะ 555) เอาละว่ะต้องหาโอกาสให้ได้สักครั้ง จึงเป็นที่มาของทริปนี้ครับ ตามผมกับลูกสาวไปเลยครับ ไปหาความบริสุทธิ์กัน ตามหนูมาเลยค่ะ

รถเริ่มออกแล้วครับ….

ทริปนี้เต็มไปด้วยผีเสื้อครับ ผีเสื้อเยอะมาก เค้าบอกว่าผีเสื้อมากินเกลือแร่ เหมือนช้างมากินโป่ง ทำนองนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ถนนทางเข้าพะเนินทุ่งไม่โหดเท่าใหร่ ส่วนมากชันและแคบเท่านั้น จะปล่อยรถขึ้น-ลงเป็นเวลา ห้ามสวนทางกัน ถนนเป็นลูกรังมีลาดยางบ้างห่างๆ ผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปถนนเท่าใหร่ เพราะยังไม่ถูกใจเท่าที่ควร ภาพนี้เป็นบนเขาพะเนินทุ่งแล้วครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ต้นไม้ต้นนี้อยู่ติดร้านอาหาร มีค่างหน้าขาวๆ หางยาวๆหลายตัวมาก วิ่งกันไปมา ผมถ่ายได้แต่ต้นไม้ 555 จนท.บอกว่ามีตัวเม่นออกมาให้ดูทุกวันด้วยนะ แต่ผมพลาดไปนิดเดียว เดี่ยวเจอกันใหม่ จำไว้

ตัวเม่นจะออกมากินเศษอาหารแถวต้นกล้วยเหล่านี้ครับ

  

น้ำค้างครับ 9โมงกว่าแล้วนะเนี่ย อากาศที่นั้น 5 โมงเย๊นน้ำค้างเต๊มเต้นท์แล้วครับ หนาว

เสียงนก เสียงสัตว์ดังลั่นป่า นอนฟังแล้วมีความสุข…. คนเข้าไปถ่ายรูปนกกันเยอะครับที่นี้ รถเก๋งก็เข้าไปได้ แต่ต้องช้าหน่อยนะ เขาจำกัดคนเข้าไปวันละไม่เกิน 150 คน ส่วนผมขับเข้าไปประมาณช่วงกลางๆ คนเข้ามาทีหลังผมปล่อยให้แซงกันไปหมด ถนนลูกรังแหลมๆ เยอะมากๆ กลัวจะพาลูกไปกินข้าวกับเสือครับ ที่นั้นเสือยังมีอยู่เยอะ จนท.บอกว่าบางวันจะมีเสือมายืนโบกขอติดรถไปด้วย บรื่อ..!

มัวแต่พาลูกทานข้าว กว่าจะมาดูทะเลหมอกก็ 9 โมงแล้วครับ เหลือเท่านี้แหละ

บางท่านขับรถต่อไปดูใต้หมอกกับน้ำตก ผมไปได้ครึ่งทางเกรงว่าจะลงกลับช่วงเวลาปล่อยรถลงช่วงเช้าไม่ได้ และในใจก๊คิดว่ามีอีกโปรแกรมหนึ่ง ไว้เจอกันอีกนะ..

บรรยากาศโดยทั่วไปดีนะครับ เพราะเขาจำกัดคนจึงทำให้ไม่พลุกพล่าน สบายๆ อีกอย่างห่างจากแก่งกระจานประมาณ 30 โล ช่วงหลังจากทางเข้าเขาพะเนินทุ่งแล้ว จะมีอุโมงค์ต้นไม้เหมือนเขื่อนป่าสักแต่ที่นี้จะยาวกว่ามาก สวยงามแต่ไม่ถ่ายไว้ จากนั้นเริ่มเข้าสู่ถนนลูกรัง ลงห้วย 3-4ห้วย ขึ้นเขาชันๆ 3-4 เขา สลับลูกรัง อีก 30 โลครับ ผมวิ่งในนี้ 2 ชม.ได้ครับ ถ้าเช่ารถจากแก่งเข้ามาในนี้ก็ 1500 บาท ขึ้นไป

ตรงนี้คือที่สูงที่สุดของเขาพะเนินทุ่งแล้วครับ เขาบอกว่าเป็นเรือนรับรองฯ ทางขึ้นชันและโค้งประมาณ 40-45 องศา

ยืนมองทิวทัศกันครับ

พัก1คืนด้วยบรรยากาศ สบายๆ ห้องน้ำก็โอเคกว่าเขาใหญ่มากๆ แต่ต้องลาพะเนินทุ่งแล้วครับ ถามทางจนท.เพื่อไปเขากระโจมแถวสวนผึ้งราชบุรีเรียบร้อย

ทางลงเจอผึ้งญวน เอามาฝากพี่ๆ กันครับ

มาถึงทางออก พี่จนท.ถามว่าตกลงพี่ไปใหนครับ คิดไปคิดมา 5555 ไม่ไปแล้วเขากระโจม เข้าโป่งลึกดีกว่า เข้าไปหาความบริสุทธ์ของ……….. (เดี่ยวมีให้เห็น)
ลูกสาวผมก๊ได้แต่นั่ง..

กับ ได้แต่นอนนนนนนนน… ดูดนิ้ว..

จากทางออกเขาพะเนินทุ่งถึงทางเข้าโป่งลึกประมาณ10กว่าโลได้ครับ แต่ถ้าเรามาทางแก่งกระจานจะถึงทางเข้าโป่งลึกก่อนพะเนินทุ่งนะครับ มีป้ายอยู่ขวามือชัดเจน เปลี่ยน…

พวกทางเข้าต่างๆไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ และต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วย ผมเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่เข้าพะเนินทุ่งแล้วครับ แบบจ่ายทีเดียวเที่ยวทั่วไทย ผู้ใหญ่2ท่าน รวม 2 สถานที่ 140บาท คุ้มมากครับ มีจนท.มาถ่ายรูปทะเบียนเข้าออกทุกคันนะครับ แต่ถ้ารถชาวบ้านในนั้นจะไม่ถ่าย

ตอนผมเข้าเจอคาริเบี้ยนกำลังออก5คัน กลางทางยังเจอสปอร์ตเทคอีก2คันด้วยนะ ผมก็อุ่นใจ 55555 มรึงออกมาได้ ตรูก็ต้องเข้าไปได้แน่ๆ เข้าไป3-4โลเจอผีเสื้อริมห้วยอีกแล้วครับ

ผ่านห้วย 1 ห้วย 2 รถเริ่มแดงๆไปด้วยฝุ่น

เคยไปดูแรลลี่ที่เมืองกาญ โอ้โห ชอบมากมาย..

 

สักพักก็ชันเกือบๆ 50 องศา

ผ่านมาได้สักหน่อยก๊เจอยักษ์ครับ ตรงนี้ภูมิใจมาก เพราะผมได้วิ่งเป็นคันแรก และคันสุดท้าย แฮะๆ ปลื้ม…..เป็นประวัติศาสตร์ของตัวเองไปเลย..

ข้างบน กลิ่นดินใหม่ๆ หอมชื่นใจเชียวครับ

มานิดนึงก๊อีกแล้วครับท่าน ผี…. เ สื้ อ ทั้งนั้น ขับไปพร้อมกับผีเสื้อเกือบๆตลอดเส้นทางของถนน ผมชนไปหลายตัวเหมือนกันครับทั้งที่ขับช้าสุดแล้ว
เข็มเร่งยังขึ้นไม่ถึงยี่สิบเลยครับ ใจจริงคือกลัว…. กลัวยางแตก ทั้งที่มียางสำรอง แต่ก็กลัว

อีกอย่างต้องขับช้า เพราะลูกสาวกินนมบ้าง นอนบ้าง ไม่งั้นกระเด็นกระดอนไปทั้งคันละครับ

หนทางอีกยาวไกล ขวามือคือเหวนะครับ

เห็นบ้านกับถนนอยู่ลิบๆ คิดว่าใกล้แล้ว……

แต่ไม่ใช่

ยังไม่เห็นอนาคต….

ยอดเขาที่เท่าใหร่แล้วครับเนี่ย

โค้งหักศอก เยอะครับ

ตรงนี้อย่าได้ตรงไปนะครับ ประมาณ 4 ถึง 5 ร้อยเมตรได้

เหนื่อยกันแล้วใช่ป่ะครับ งั้น..พักด้วยผลไม้ข้างทางนะ ไม่รู้ลูกอะไร ลักษณะกลมๆ แหลมๆ เหมือนขนุน ทานได้รึเปล่าครับพี่ครับ

ต่อเลยครับ ตรูจะไปใหนเนี่ย พม่าป่ะเนี่ย ในใจเริ่มคิดแล้วครับ ส่วนแม่บ้านเริ่มมองเข็มน้ำมัน มองแล้วมองอีก..

มาจากทางเข้า เกือบ 2 ชม. แล้วครับ ทนกันไม่ไหว…..แล้ว กลับกันดีกว่า..

เอ่อ..
ถ้ากลับคงไม่ใช่ข้าพเจ้าแล้วแหละ

คือทั้งคันปวดท้องฉี่กันนะครับ
อั้นกันไม่ไหว
ต้องระบายกันข้างทาง

ขอโทษผีสางเทวดาด้วย
แต่เขาว่าผีไม่มีกลางวันไม่ใช่หรือครับ
แล้วเราจะขอโทษทำไม
นะ…

มีพี่ข้างในบอกว่าเห็นรถเก๋งเข้ามาด้วย
สักพักก็หายไปเลย

น่าจะตกเหว
หรือไม่ก็เสือคาบไปกิน

แต่ผมว่าแค่เจอห้วยอันแรกก็ถอดใจไปแล้ว
เสียดายช่วงล่าง

จากนั้นก็มาถึงตรงนี้

ป้ายบอกห้ามรถเกิน2ตันวิ่งบนสะพาน
เอ๋..รถตรูแค่1250โลนี่นา(อาจจะไม่ถึงด้วย) สบายมากๆ

แต่อยากให้รถได้พักอาบน้ำนิดนึง

คนก็อยากยืดเส้นยืดสาย ตามประสาวัยเกินน้อย

เปิดฝาคลายร้อนสัก10นาที ต้องต่อเพราะไม่รู้ข้างหน้าเป็นอย่างไร

วกๆวนๆ แอน วนๆวกๆ

ผ่านจากบริเวณนี้
ก็จะเลาะไปตามลำน้ำเพชร

เริ่มสดชื่น เริ่มเห๊นอนาคตลิบๆ

เริ่มเข้าหมู่บ้านแล้วครับ
หมู่บ้านชาวเขาเผ่าอะเลคะยอ
หรืออะไรทำนองนี้แหละ
พูดไม่ถูก

หมู่บ้านนี้เป็นคนไทยชาวเขาทั้งหมดมีบัตรประชาชนไทยเรียบร้อย
มีโรงเรียนตชด.ในหมู่บ้าน คนเหล่านี้จะพูดกันแบบ

ผมเอาแคร๊อกมาฝ๊าก อย๊ากให้คุงได้กิ๊น….
ผะมีวิตามิน….. ทำนองนี้
ส่วนมากพูดภาษาประจำถิ่นของเค้าเองครับ

ไม่มีรถประจำทาง เข้าออกส่วนมากมอไซด์ แต่ถือว่าน้อยมากๆ
ถ้าฉุกเฉินไม่สบายเรียกรถกระบะไปท่ายาง 3000บาท

ผมขับเข้ามายังไม่มีรถตามมาให้เห๊นสักคันเลย

แต่ถนนจากช่วงนี้จนถึงที่พัก
มันสาหัส… เหลือเกินนนน….

เหมือนกองหินเพิ่งระเบิดแถวสระบุรี
ขรุๆขระๆ สูงๆต่ำๆ เหมือนไฮโล อุ้ย…ไม่ใช่
ชันก๊ชัน ตะกุยๆ และตะกุย…

ในรูปคืออนุบาลครับ
ถ่ายไม่ใหวมือไม่นิ่ง
หัวสั่นปานสปริงถูกดีด

และแล้วก๊มาเจอ………………….

จากตรงนี้ก๊ลงอีก1ห้วย ตะกุยไปอีก1เนิน
สุดท้าย………………

ถึงแล้วครับ…… โป่งลึก

ลึกจริงๆ ระยะทางจากถนนใหญ่ 35กิโลเมตร
ผมใช้เวลา 3ชม.เต็มๆ
คลานมากกว่าขับครับ
5555555

ถ้าเป็นออฟโรดสูงก๊ไม่นานเท่าผมหรอก
ไม่น่าเกิน2ชม.ด้วยซ้ำ

ถนนลูกรังผมจะขับช้ามาก
วันก่อนที่หัวหินก๊ครั้งหนึ่งช้ามากๆ
และจะบอกว่าอำเภอหัวหินบางหมู่บ้าน
ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงนะเออ

มาถึงที่นี้ก๊เจอจี๊บยูนิ้กับออฟโร๊ด4×4
เขาบอกว่า ม า ไ ด้ ไ ง ว๊ ะ

มาถึงต้นน้ำเพชรบุรีแล้ว
ขออาบให้ฉ่ำปอด

และขออนุญาตุให้ลูกสาวฉี่ใส่น้ำไปให้น้าของลูกสาวที่อยู่เพชรบุรีได้กิน
55555ไม่ใช่อะไรหรอก เขาอยู่ที่นั้นตั้งแต่เกิด แต่ไม่รู้จักที่นี้เลยครับ
(จะเลียนแบบก๊ได้)

มัวแต่อาบน้ำกับเดินซึมซับบรรยากาศบริสุทธ์ เลยไม่ได้ถ่ายรูป
ในภาพนี้เป็นภาพที่พี่คนแน๊ะนำส่งมาให้ผมดูครับ

ลูกสาวผมดูไลอ้อนคิงส์มากไปหน่อย เลยเรียกท่อนไม้นี้ว่าจระเข้ ไปนั่น.. (ภาพจากพี่เขาอีกภาพ)

งานเข้าครับ ไม่ได้เอาอาหารไปเลย ติดต่อจนท.ชาวเผ่า ให้ทำอาหารแบบที่ชาวบ้านแถวนั้นทานกัน จัดแบบพี่ทานอย่างใหน ผมทานอย่างนั้น 5555555 ฝากพี่ๆเลยครับ ของหวานจากผึ้งสดๆ ยำใบกูด สุดยอดดดด…

ขอต่อกันอีกหน่อยนะครับ ใกล้จะจบแล้ว เกรงว่าจะไม่เห็นหน้ากัน จัดให้สักหน่อย…

ดูลูกสาวผมอาบน้ำครับ

คงไม่เคยเห็น

มีหรือจะปฏิเสธ

ชาวบ้านทั่วไป ดูดไปป์ (หรือเปล่า) เด็กๆ ก็ดูดกันตั้งแต่เล็กๆ (ไม่ได้ถ่ายรูป) พ่อแม่ไม่ว่า เพราะพ่อแม่ก็ดูด

เด็กคนนี้ สุนัข(หมา) กัดที่แก้มเลยครับ ไม่รู้กัดอย่างไร งง..

บอกแล้วว่าผีเสื้อเยอะจริงๆ ไม่ธรรมชาติ ผี…พวกนี้ ไม่ค่อยมีนะครับ

บรรยากาศ ลานกางเต้นท์
ที่นี้ห้องน้ำก๊ค่อนข้างดีครับ
เขากำลังทำเพิ่มด้วย
พี่ๆผู้หญิงไม่มีปัญหา

มีทริปเดินป่า
หรือปีนขึ้นยอดเขาแล้วตะโกนว่า
เหินฟ้า……………………………….. ก๊ได้ (เก่าไปม่ะ)

หรือเดินชมหมู่บ้าน มีสินค้าชาวเขาขาย
ทริบล่องแพ คือเอาแพที่นั้นเข๊นขึ้นต้นแม่น้ำ
แล้วล่องกันเอง ไม่เสียตังค์
น่าสนใจป่ะครับ

หรือจะข้ามฝั่งไปเที่ยวอีกฝั่งก๊ได้
คนไทยทั้งนั้น แต่พูดคนละภาษา
เท่านั้นเองครับ

เอาสาวชาวอะเลคะยอมาฝาก
ใสๆหลายคนนะ บริสุทธิ์..!!

ทุกอย่างย่อมโรยรา อุ้ย..เลิกรา
ถึงเวลากลับบ้านแล้วครับ

น่าเสียดายอยากอยู่ต่ออีกวัน หรือ 2วัน
หรืออีกหลายๆวันก๊ได้
ห่างจากสิ่งเหล่านี้มานาน

เห๊นเด๊กสวมแว่นขยาย มือถือลูกดอก
ดำผุดดำว่าย หาปลาในน้ำ
โผล่มาอีกทีกับปลาในมือเพื่อเอากลับบ้าน
หรือสุมกันนั่งผิงไฟแก้หนาวริมตลิ่ง
ซนๆประสาเด็กๆบ้านนอก

คิดถึงตอนเด็กเลยครับ

ออกมาหน่อยก็ผีอีกแล้วครับ เบื่อกันแล้วยัง ภาพสุดท้ายแล้วนะ

ขากลับ ก็ไม่ต่าง จากขาไป ไร้อนาคต…

ขับมาสักพักก็.. นี่ครับ ในใจคิด มรึงหลีกไปนะ มรึงไม่หลีกตรูก็ไม่หลีก เพราะถ้าตรูหลีก เหว.. แน่ๆครับพี่น้อง

สุดท้าย..
เขาก็หลีกให้ครับ

แต่ดูสิ
ยังหลีกไปอยู่ฝั่งภูเขา
ปล่อยให้เราขับไปทางฝั่งมีเหวซะอีก
จำไว้..

เลยมาหน่อยก็เจอ
เจ้านี่อีกแล้วครับ

ทำอะไรของเค้าท่าทางไม่ชอบว่างๆ นิ่งๆ สบายๆ คงอยากมีเรื่อง..ผมตบแขนตัวเอง ปั๊ป.. ๆ ตึ่นนๆ ตึ่นได้แว้ว.. กา… ลั ง..ง มี เ รื่ อ ง….

เ อ้ ย ย ย… อ ย่า จั บ ต รู โ ย น เ ห ว นะ โ ว้ ย ย ย ย ย ย ย….

เขากำลังตัดถนนให้ดีขึ้นนะครับ ถามเขาแล้วบอกว่าประมาณ 2 เดือนน่าจะเสร็จ เดี่ยวเจอกันนนน…. พี่น้อง

ตรงนี้แหละพี่ เสียว… เสียวทั้งขึ้น เสียวทั้งลง.. เสียวไถลนะครับ คิดไปอย่างอื่นได้ ไม่ว่า….

เลยจากส่วนนี้ก็ฉลุยแล้วครับ ฝุ่นตามหลังยังกะแรลลี่ปารีสดั๊กกาส์ ยังไงยังงั้น ชอบๆ..

เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปฝุ่นมาให้ดู แล้วจะให้ใครถ่ายว่ะเนี่ย..กลับออกมาแล้วเพิ่งเจอมอไซ งานนี้ เราต้องหลีกให้เค้านะครับ

ภาพใกล้หมดแล้วครับ

อีกนิดก๊ถึงทางออกแล้วครับ
ปลอดภัยทั้งพ่อทั้งแม่และทั้งคุณลูก
บางทีวิ่งๆอยู่มองกระจกหลังเห๊นสัตว์วิ่งผ่านก๊ยังมีนะครับ
ชอบกันป่ะครับ

สุดท้าย กลับถึงบ้านเรียบร้อย ด้วยความสุข

เป็นฝีมือของคนสาดน้ำสงกรานต์ทางกลับแถวเพชรบุรีครับ น่าเสียดายทางผ่านไม่ได้ถ่ายรูปแก่งกระจานและเจ้าแม่กวนอิมพันมือใหญ่ที่สุดในโลก(เขาว่างั้น) ให้ดูครับ

ลากันด้วยภาพนี้ ..ไปวันนั้น 13/4/2554 ไปอีกครั้ง 8/5/2559 ห่างกัน 5 ปี 1 เดือน ลูกสาวโตขึ้น.. ถนนยังเหมือนเดิม(แย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ) แต่ก็ดี..ความดิบความสวยงามยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง รักนะเพชรบุรี

Back to Blog